วันจันทร์ที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2559

ความรักอีกครั้ง ในเพลงรัก ยอม P.O.P

วันนี้ผ่านมาอีกคราวหนึ่ง คำว่ารักในวันวานยังย้อนเข้ามาอยู่ในความทรงจำ
ความรักได้จากลาไปอีกครั้ง
และความรักก็ได้เข้ามาอีกครั้ง
เราได้เวียนวนไหลเวียนไป
อีกหลายครั้ง
คำว่า รัก ที่เคยเกิดขึ้น
ได้มีอยู่จริง
และคำว่ารักที่เป็นอยู่
ในช่วงเวลานี้
ก็เป็นความรักที่แท้จริง

ยอม P.O.P



แม้ว่าการตัดสินใจ ของฉันจะผิดพลาดมาสักเพียงไหน
ก็ไม่อาจเปลี่ยนหัวใจไปจากนี้
ฉันรู้ ฉันรู้ ตั้งแต่วันที่ฉันนั้นมีโอกาสได้ใกล้เธอ หัวใจฉันเองก็รู้ดี
เธอคือ คนนั้น คนที่ฉันไม่เคยคิดฝันว่ามี แล้วเธอ แล้วเธอก็ยืนอยู่ตรงนี้
แม้ว่าการตัดสินใจ ของฉันจะผิดพลาดมาสักเพียงไหน
ก็ไม่อาจเปลี่ยนหัวใจไปจากนี้
หยุดไม่ได้แล้วทุกๆอย่าง ใจของฉันนั้นรักเธอตั้งแต่เราได้พบหน้า สบสายตากันและกัน
ห้ามไม่ได้แล้วหัวใจ จะไม่ยอมปล่อยเธอให้ไปจากฉัน
แม้ต้องเจ็บสักเท่าไหร่ แม้จะต้องแลกกับสิ่งไหน ก็ไม่สำคัญ(ฉันยอม)
หยุดไม่ได้แล้วทุกๆอย่าง ใจของฉันนั้นรักเธอตั้งแต่เราได้พบหน้า สบสายตากันและกัน
ห้ามไม่ได้แล้วหัวใจ จะไม่ยอมปล่อยเธอให้ไปจากฉัน
แม้ต้องเจ็บสักเท่าไหร่ แม้จะต้องแลกกับสิ่งไหน ก็ไม่สำคัญ(ฉันยอม)




วันอังคารที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2557

Destiny โชคชะตา พรหมลิขิต ชะตากรรม

เธอกับฉันเราไม่คู่กัน
จะทำอย่างไร ให้เธอกลับมารักเราอีกครั้ง
เธอทำให้ฉันรักเธอ
เธอทำให้ฉันหลงเธอ
เธอทำให้ฉันร้าวราน
ฉันอยากจะอ้อนวอนให้เธอกลับมารักกัน
คู่กันแล้วคงไม่แคล้วกัน
เธอกับฉันเราไม่คู่กัน

ถ้าฉันเปลี่ยนใจเธอได้

กฏเกณฑ์บางอย่างเกิดขึ้นอย่างเที่ยงตรง เราคงไม่สามารถเปลี่ยนใจคนได้ นั่นอาจเป็นความจริง
คนผิดหวังก็มีอยู่เยอะแยะ การที่ฉันจะผิดหวังอีกสักครั้งก็คงจะไม่แปลก ถ้าฉันเปลี่ยนใจเธอได้
ฉันก็คงเลือกความเป็นจริง ในความฝันเท่านั้นที่จะเปลี่ยนแปลงได้ .................จุดจบอาจดีกว่านี้.

ถ้าฉันเปลี่ยนใจเธอได้ ฉันนั้นก็คงไม่เหงา เดียวดายอยู่อย่างนี้
เปลี่ยนใจเธอได้ ชีวิตคงดีกว่าที่เป็นอยู่แบบนี้

ตั้งแต่เราร้างลาจากกันไกล ตั้งแต่วันที่เธอเดินจากฉันไป
จำเหตุผลไม่ค่อยได้ สาเหตุนั้นคืออะไร
พอมาเจอเธอในวันนี้ ความรู้สึกดีดี กลับมาอีกที
อยากให้เธอรู้ไว้ว่าฉัน

ตั้งแต่วันนั้น ฉันยังคงติดอยู่กับความทรงจำ
ที่ยังมีเธอ มีเธอ อยู่ข้างๆกาย

ถ้าฉันเปลี่ยนใจเธอได้ ฉันนั้นก็คงไม่เหงา เดียวดายอยู่อย่างนี้
เปลี่ยนใจเธอได้ ชีวิตคงดีกว่าที่เป็นอยู่แบบนี้

อยากจะรู้เธอเคยรู้สึกเหงาแค่ไหน เมื่อไม่มีฉันคอยเอาอกเอาใจ
เมื่อเธอนั้นไม่มีใคร อยากจะรู้เธอเคยคิดถึงฉันบ้างไหม
ฉันนั้นคิดถึงเธออยู่ทุกวัน ทุกคืนฉันนอนไม่เคยหลับ
มีแต่ภาพเธอมากวนใจ ทำให้ฉันคนนี้ต้องหวั่นไหว

ตั้งแต่วันนั้น ฉันยังคงติดอยู่กับความทรงจำ
ที่ยังมีเธอ มีเธอ อยู่ข้างๆกาย

ถ้าฉันเปลี่ยนใจเธอได้ ฉันนั้นก็คงไม่เหงา เดียวดายอยู่อย่างนี้
เปลี่ยนใจเธอได้ ชีวิตคงดีกว่าที่เป็นอยู่แบบนี้

If I could change your mind ถ้าฉันเปลี่ยนใจเธอได้
If I could change your mind ถ้าฉันเปลี่ยนใจเธอได้
If I could change your mind ถ้าฉันเปลี่ยนใจเธอได้
If I could change anything,
I would change everything that made us apart.
If I could change anything,
I would change everything that made us apart.

ตั้งแต่เราร้างลาจากกันไกล ตั้งแต่วันที่เธอเดินจากฉันไป
ฉันนั้นคิดถึงเธออยู่ทุกวัน ทุกคืนฉันนอนไม่เคยหลับ
...อ้างอิง http://sz4m.com/t5183

ความรักที่ซ่อนไว้ ในวันที่อากาศหนาวบ้างร้อนบ้าง

ความรู้สึกที่เก็บไว้
ทุกวันที่มีในใจ
คำพูดทุกคำที่คิดไว้
จะมีโอกาสบ้างไหม

และทุก ๆ วันที่ได้พบ
เรื่องราวมากมายในใจ
จึงอยากให้เธอได้รับรู้
ช่วยฟังสักครั้งได้ไหม

อยากให้เธอรู้
เมื่อได้พบ
ฉันหลงรักเธอเหลือเกิน
ให้หัวใจฉัน
ได้เปิดเผย
ความรักที่ฉันซ่อนไว้
ให้เธอรู้.....................................


บางครั้ง เพลงก็เป็นส่วนหนึ่งของความรู้สึก
หากเรามีความรัก
เพลงก็เป็นทำนองแห่งความรัก
ช่วงเวลาหนึ่งที่ผ่านเข้ามา
ความรักก็สวยงาม
สวยงามเสมอ
เธอรู้แล้วก็แค่นั้น
ถ้าเพียงไม่มีใจให้กัน
บางครั้งการเก็บความรัก
มันก็ดีกว่าการที่เปิดเผยออกมา
แล้วเราก็กลายเป็นคนอื่น
ในสายตาของเธอ............................................... การเปิดเผยใจ
 บางครั้งก็....อาจเสียใจไปจริง ๆ เลยก็เป็นได้

วันอังคารที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2556

B2ST - Oasis โอเอซิส กลางใจของฉัน





Title : Oasis
Artist : 비스트
This is for broken heart soul
Yes, you know what ?
Listen
세상에 끝에 섰을 때 길이 보이지가 않을 때
เซซาเง กือเท ซอซึลแต คีรี โพอีจีกา อานึล แต
เมื่อตอนที่ฉันยืนอยู่ ในวันที่เหมือนโลกทั้งใบจะจบสิ้น
และเหมือนมองไม่เห็นหนทางใด

누군가 필요했었죠
นูกุนกา พีลโยแฮซอดจโย
ฉันเพียงต้องการแค่ใครสักคน 

(somebody know know somebody know oh!)
(แต่มีคนบางคนรับรู้ .. มีคนบางคนรับรู้ โอ้! )
어둠에 갇혀있을 때 빛이 보이지가 않을 때
ออดุเม กัดฮยออีซึล แต บีชี โพอีจีกา อานึล แต
เมื่อฉันติดอยู่ในความมืดมน และต้องการเพียงแสงสว่าง

손길을 기다렸었죠
ซนกีรึล คีดารยอซอดจโย
ฉันรอเพียงแค่มือที่จะยื่นเข้ามาช่วยเหลือ

(somebody hope hope somebody hope oh!)
(หวังเพียงใครสักคน หวังเพียงสักคน โอ้! ) 

그대는 모르죠 세상에 단 하나
คือแดนึน โมรือจโย เซซาเง ทัน ฮานา
คุณไม่รู้หรอกว่า คุณเป็นหนึ่งเดียวในโลกนี้
그대가 only one more than better world
คือแดกา only one more than better world
คุณเป็นคนที่ดีที่สุดในโลก

I believe dream for you and me
ฉันเชื่อว่าความฝันของฉัน ก็คือความฝันของคุณ
메마른 나의 하루에 단비로 내려 내 마음에 내려 용기를 줘
เมมารึน นาเอ ฮารุเอ ทันบีโร แนรยอ แน มาอือเม แนรยอ ยงกีรึล จวอ
คุณคือหยาดฝนในวันที่ลมแรงของฉัน คุณทำให้ใจของฉันชุ่มชื่น และมอบความกล้าหาญให้ฉัน

you make me fly and smile again
คุณทำให้ฉันกล้าที่จะโผบิน และ ยิ้ม อีกครั้ง  

비온 뒤 무지개처럼 소리 없이 나의 품에 안겨 행복을 줘
พีโอน ทวี มูจีแกชอรอม โซรี ออบชี นาเอ พูเม อันกยอ แฮงโบกึล จวอ
เข้ามาโอบกอดฉัน มอบความสุขให้อย่างเงียบๆ เหมือนกับสายรุ้งหลังฝนตก
I wanna make a love

현실에 도망쳤었던 나의 모습을 보았을 때
ฮยอนชีเร โทมังชยอซอดตอน นอเอ โมซือบึล โพอาซึล แต
ถ้าหากคุณรู้ว่าฉันอยากยอมแพ้และอยากวิ่งหนี

혹시나 실망했나요
ฮกชีนา ชิลมังแฮดนาโย
คุณก็คงจะผิดหวังในตัวฉันใช่ไหม

그대가 있기에 돌아올 용기를 내었죠
คือแดกา อิดกีเอ โทราโอล ยงกีรึล แนออดจโย
ฉันลุกขึ้นมาได้อีกครั้งก็เพราะคุณ คุณที่อยู่ตรงนั้นเสมอ
you're the one always in my heart

I believe dream for you and me
ฉันเชื่อว่าความฝันของฉัน ก็คือความฝันของคุณ
메마른 나의 하루에 단비로 내려 내 마음에 내려 용기를 줘
เมมารึน นาเอ ฮารุเอ ทันบีโร แนรยอ แน มาอือเม แนรยอ ยงกีรึล จวอ
คุณ คือหยาดฝนในวันที่ลมแรงของฉัน คุณทำให้ใจของฉันชุ่มชื่น และมอบความกล้าหาญให้ฉัน

you make me fly and smile again
คุณทำให้ฉันกล้าที่จะโผบิน และ ยิ้ม อีกครั้ง   

비온 뒤 무지개처럼 소리 없이 나의 품에 안겨 행복을 줘
พีโอน ทวี มูจีแกชอรอม โซรี ออบชี นาเอ พูเม อันกยอ แฮงโบกึล จวอ
เข้า มาโอบกอดฉัน มอบความสุขให้อย่างเงียบๆ เหมือนกับสายรุ้งหลังฝนตก
I wanna make a love
Rap :

oh lonely night 지겹고 숨막히는 어둠의 밤
oh lonely night จีกยอบโก ซุมมักคีนึน ออดูเม พัม
คือที่เดียวดาย มันช่างเป็นคืนที่ร้อนรุ่มและเดียวดาย
그 속에서 매일 밤을 눈물로 혼자 울던 날
คือ โวเกซอ แมอิล พามึล นุนมุโร ฮนจา อุลดอน นาล
ในช่วงเวลาเหล่านั้น ฉันได้แต่ร้องไห้เพียงลำพังในความมืด

아직은 여리기만 한 가슴에 상처를 줬던 많은
อาจีกึน ยอรีกีมาน ฮัน คาซือเม ซังชอรึล จวอซดอน มานึน
ท่ามกลางผู้คนที่มีแต่จะทำร้ายจิตใจอันบอบบางของฉัน

사람들 대신 (thanks a lot)
ซารามดึล แทชิน (thanks a lot)
แทนที่จะเป็นเหมือนผู้คนเหล่านั้น (thanks a lot)
내 맘이 메마를 때
แน มามี เมมารึล แต
ที่ทำให้หัวใจของฉันเจ็บปวด
but that`s okay you make a way
언제나 빛이 되는 you you you
ออนเจนา บิชี นานึน you you you
คุณกลับอยู่ตรงนั้นเสมอ คุณ คุณ คุณ
삶의 이유 only you
ซัลเม อียู only you
เหตุผลที่ทำให้ฉันยังมีชีวิตคือคุณ

넌 사막의 오아시스 제일 달콤한 초콜릿
นอน ซามาเก โออาซีซือ เชอิล ทาลคมฮัน โชโคริซ
ท่ามกลางทะเลทราย คุณคือ โอเอซิส ที่หวานราวกับช็อคโกแลต

그대가 있기에 돌아올 용기를 내었죠
คือแดกา อิดกีเอ โทราโอล ยงกีรึล แนออดจโย
ฉันลุกขึ้นมาได้อีกครั้งก็ เพราะคุณ คุณที่อยู่ตรงนั้นเสมอ 
you're the one always in my heart

I believe dream for you and me
ฉันเชื่อว่าความฝันของฉัน ก็คือความฝันของคุณ
메마른 나의 하루에 단비로 내려 내 마음에 내려 용기를 줘
เมมารึน นาเอ ฮารุเอ ทันบีโร แนรยอ แน มาอือเม แนรยอ ยงกีรึล จวอ
คุณ คือหยาดฝนในวันที่ลมแรงของฉัน คุณทำให้ใจของฉันชุ่มชื่น และมอบความกล้าหาญให้ฉัน

you make me fly and smile again
คุณทำให้ฉันกล้าที่จะโผบิน และ ยิ้ม อีกครั้ง   

비온 뒤 무지개처럼 소리 없이 나의 품에 안겨 행복을 줘
พีโอน ทวี มูจีแกชอรอม โซรี ออบชี นาเอ พูเม อันกยอ แฮงโบกึล จวอ
เข้า มาโอบกอดฉัน มอบความสุขให้อย่างเงียบๆ เหมือนกับสายรุ้งหลังฝนตก
I wanna make a love
,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,

อุตส่าห์แปลมาอย่างไพเราะ ขอบคุณนะค่ะ 

วันเสาร์ที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2556

น้ำตาแสงใต้ เหงาปนเศร้า ประวัติที่มาของเพลงน่าอึ้ง

 
จุดเริ่มของการฟังเพลงน้ำตาแสงใต้เริ่มมาจาก ได้ยินเสียงพี่โจ้
ตาม link นี้ 
http://www.youtube.com/watch?v=y6E1mTu7jT8&feature=youtube_gdata_player


เศร้า ลอย เคล้าอารมณ์ เพราะจริงๆ เลยค้นหาสักหน่อยตามนี้คะ



ที่มาของเพลง ” น้ำตาแสงไต้ ” เพลงแห่งความหลัง ครูแจ๋ว สง่า อารัมภีร


เรื่องราวที่จะได้อ่านต่อไปนี้เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับครูสง่า อารัมภีร

หรือ ครูแจ๋ว ที่ลูกศิษย์และเพื่อนพ้องในวงการเรียกกัน

นอกจากที่ครูแจ๋วมีความสามารถในการแต่งเพลง

ซึ่งเป็นงานที่ถือได้ว่าครูเป็นเอกทางด้านดนตรี

ท่านแต่งเพลงไว้ให้เราได้ฟังกันร่วมๆ 2,000 เพลง เพลงเอกอาทิ ;

เรือนแพ, ดาวประดับใจ,

เพื่อเธอเพื่อเธอ, น้ำตาแสงไต้, หนึ่งในร้อย ฯลฯ

เพลงแต่ละเพลงที่ครูแจ๋วแต่งล้วนแต่เพราะๆ

และโด่งดังเป็นที่รู้จักไม่เฉพาะคนรุ่นเก่า

คนรุ่นใหม่ยังซาบซึ้งไปกับบทเพลงของท่านกันไปทั่ว

นอกจากนั้นแล้วครูมีความสามารถในงานเขียนเช่นกัน

โดยเฉพาะเกี่ยวกับเรื่อง ” ผี ”

ท่านเขียนได้อย่างมีเอกลักษณ์อย่างเฉพาะตัว

ท่านเขียนเรื่องไว้ประมาณ 60 เรื่อง 

ใช้นามปากกาว่า  แจ๋ว  วรจักร,  จ้อน  บางกระสอ 

เริ่องผีเรื่องแรกๆ ที่เขียนลงพิมพ์ในเพลินจิตต์รายสัปดาห์ เมื่อปี พ. ศ. 2489   

จากนี้ขอให้ทุกท่านเพลิดเพลินกับงานเขียนและ

ที่มาของเพลง  น้ำตาแสงไต้ “ 

เพลงแห่งความหลัง ครูแจ๋ว สง่า  อารัมภีร  ศิลปินแห่งชาติ ปี 2531 

สาขาศิลปะการแสดง ( เพลงไทยสากล )

ผมเองเป็นผู้เขียนขึ้รเมื่อปี 2493 เพื่อลงพิมพ์ในสูจิบัตรละครเรื่อง “กุลปราโมทย์”

เป็นละครลำดับที่ 68 ของ คณะศิวารมณ์  มันก็หลายปีมาแล้ว

แต่ก็ทำให้รำลึกถึงความหลังเมื่อครั้งเก่าก่อนได้ดีอยู่ เปียโนตัวที่จะกล่าว

ถึงนั้น เวลานี้ก็ดูเหมือนยังอยู่ที่ห้องเล็กศาลาเฉลิมกรุง

เมื่อสองสามปีก่อนผมขึ้นไปบนห้องเล็กยังลูบคลำ

ยู่เลย มันเก่ามากแล้ว และเสียงบางเสียงก็เพี้ยนเพราะไม่มีใครดูแล

แต่เมื่อผมไปลูบคลำ วิญญาณของผม และมันยังผสานกันเหมือนเมื่อเก่าก่อน

แต่เดี๋ยวนี้มันจะยังอยู่ หรือถูกขายไปก็ไม่ทราบ ว่างๆว่าจะไปเยี่ยมมันอีกครั้ง

                                                                                     

ข้าพเจ้าจำได้แม่นยำว่า วันนั้นในราวเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๘๘ 

ศิวารมณ์กำลังซ้อมละครเรื่อง “  พันท้ายนรสิงห์ ” อยู่ที่ห้องเล็ก ศาลาเฉลิมกรุง

ดูเหมือนจะเข้าโปรแกรมวันที่ ๑๐ พฤศจิกายน ซ้อมกันอย่างหนัก เพราะเป็นสมัยที่เริ่มงานใหม่ๆ

ตอนนั้นข้าพเจ้ามีหน้าที่ดีดเยโนให้นาฏศิลป์เขาซ้อมและต่อเพลงให้นักร้องเท่านั้น 

ผู้ที่แต่งเพลงให้ศิวารมณ์สมันนั้นคือ  ประกิจ  วาทยกร และ โพธิ์  ชูประดิษฐ์ 

ข้าพเจ้าเป็นนักดนตรีใหม่ๆ ยังไม่ถึงปี  สุรสิทธิ์ , จอก , สมพงษ์ และทุกๆ คน

 มาซ้อมละครกันตั้งแต่เย็นส่วน เนรมิต , มารุต สมัย

โน้นเข้าคู่กันคร่ำเครียดกับบทและวางคาแร็คเตอร์ตัวละคร 

นาฏศิลป์ซ้อมกัน  เต้นกัน นักร้องก็ร้องเพลงกัน

เหลือเวลา ๕ วันละครจะเริ่มแสดงแล้ว 

เพลงเอกของเรื่องคือ  “  น้ำตาแสงไต้ “ ทำนองยังไม่เสร็จ

คุณประกิจและคุณโพธิ์แต่งส่งมาคนละเพลงสองเพลงยังไม่เป็นที่ไม่พอใจแก่

เจ้าของเรื่องและผู้กำกับ  ทั้งเจ้าของเรื่องและผูกำกับต้องการให้เพลง

มีสำเนียงเป็นไทยแท้ มีรสและวิญญาณไปในทาง ” หวานเย็นและเศร้า “

เย็นนั้นเมื่อเลิกซ้อมแล้ว ข้าพเจ้าพลอยอึดอัดไปกับเขาด้วย

ข้าพเจ้าลงมายืนเก้ ๆ กัง ๆ อยู่หน้าเฉลิมกรุง

ไม่รู้จะไปไหนดี ได้ยินเสียงเรียก  ” หง่า  หง่า ”

คุณทองอิน บุณยเสนา ถามว่า ” ราบรื่นเรียบร้อยหรือไฉน ”

ข้าพเจ้าอ่ยถึงเพลง ” น้ำตาแสงไต้  ” ที่ยังแต่งกันไม่เสร็จ พี่อินฟังแล้วพูดว่า ”

เพลงไทยนั้นมีเยอะ แต่ไอ้รสหวานเย็นและเศร้าที่หง่าว่ามันมีน้อย

อั๊วชอบมาก และรู้สึกว่าหวานเย็นเศร้ามีแต่ เขมรไทรโยคและลาวครวญ

เท่านั้น คุยกันสักพักข้าพเจ้ารู้สึกง่วงนอนปุ๊บหลับปั๊บจะหลับไปนานเท่าไรไม่รู้

           ข้าพเจ้ารู้สึกแปลกใจมาก  ที่ใครมาเล่นเปียโนที่ห้องเล็กก่อนข้าพเจ้า 

ปกติ ๘.๐๐ น. กว่าๆ  ข้าพเจ้าเห็นคนอยู่ ๔คน ชาย ๓ หญิง ๑

แต่งกายแปลกมาก ชายแต่งกายเหมือนนักรบโบราณ เขาถอดหมวกวางไว้

บนเปียโน คนเล่นผิวค่อนข้างขาว หน้าคมคาย  อีกคนหนึ่งผิวคล้ำ

นั่งอยู่ทางขวาของเปียโน คนที่ ๓ อายุมากกว่าสองคนแรก

ผมหงอกประปราย ท่าทางเป็นผู้มีบุญหนักศักดิ์ใหญ่ หน้าตาอิ่มเอิบ 

ส่วนผู้หญิงนั้นสวยเหลือเกิน นุ่งผ้าจีบพก

แต่งกายโบราณนุ่งผ้าจีบพก ห่มผ้าแถบสีแดงสด ผิวนวลปล่อยผมปรกบ่า

กำลังยืนเอามือเท้าเปียโนอยู่ด้านซ้าย

              ข้าพเจ้าเปิดประตูเข้าไป  เขาไม่สนใจข้าพเจ้าเลย

จนข้าพเจ้าเดินเข้าไปใกล้จะเข้าพูดก็ไม่รู้จักเขา

 แต่งตัวแปลก เลยนั่งมองดูเขาและฟังเพลงที่ดีดนั้น

คนเล่นเปียโนเก่งมาก เขาเล่นจากความรู้สึกจริงๆ ตาเขา

ลอยคล้ายฝันมองไปตรงหน้า บางทีทองหน้าผู้หญิง

เธอยิ้มรับน่ารักเหลือเกิน ข้าพเจ้าฟังเพลินมองเพลิน สัก

ครู่ก็สะดุ้งเพราะเสียงห้าวต่ำอย่างมีอำนาจของ

ผู้สูงอายุพูดขึ้นว่า  ” ไหน…เทพ … เธอลองเล่น เขมรไทรโยคซิ ”

คนที่เล่นเปียโนผงกศีรษะรับ พร้อมกับเปลี่ยนเพลงมาเป็นเขมรไทรโยค

เขาเล่นด้วยความรู้สึก เสียงประสานประหลาด

แต่ทว่านุ่มนวลฟังแล้วทำให้คิดและมองเห็นภาพไปด้วยความรู้สึกหวานชื่น

เพลินฟังจนเพลงจบเมื่อไรไม่รู้

เพลงที่เล่นนั้นเพราะเหลือเกินพลันเสียงผู้สูงอายุพูดขึ้นว่า 

 ” ธิดาจ๋า เธอจะไม่ลองฝีมือดูรึ ” สาวสวยคนนั้นเดินไปนั่งที่เปียโนบรรเลง

เพลงเป็นเพลงหวานเศร้าสำเนียงลาว ” ลาวครวญ ” อันหวานเศร้า

ฝีมือของเธออยู่ในขั้นเลิศ ข้าพเจ้านั่งน้ำตาคลอคิดไปถึงความหลัง

คิดเพลินจนเพลงจบไม่รู้ตัว

เสียงห้าวต่ำๆ ดังขึ้นอีกว่า  ” อมร…ถ้าเราเอา วิญญาณ ของเพลงสองเพลงนี้

มารวมกันเข้า คงจะเพราะอย่างหาที่ติไม่ได้เชียวนะ

” ข้าพเจ้าเห็นคนผิวคล้ำที่นั่งข้างขวาของเปียโนก้มศีรษะรับพร้อมกับพูดว่า  ”

กระผมเห็นด้วยคงจะไพเราะอย่างยิ่ง ” หญิงสาวลุกขึ้นจากเปียโน

พลางหันหน้าไปพูดกัยคนผิวคล้ำว่า ” ขอเชิญคุณครูค่ะ ขอเชิญคุณครูสวม

วิญญาณของเพลงทั้งสอง ให้ศิษย์ได้ฟังเพื่อเป็นขวัญโสต

และขวัญชีวิตของศิษย์ทั้งสอง “ ท่านที่รัก

เสียงที่ลอยมาจากเปียโนนั้นสำเนียงไทยแท้มี ” รสหวานเย็นเศร้า “

ครูอมรได้รวมวิญญาณของ เขมรไทรโยค และ ลาวครวญ ได้สนิทแนบ

สำเนียงและ วิญญาณถอดออกมาจากเพลงสองเพลงนี้อย่าง

ครบถ้วนโดยที่เพลงเดิมไม่ได้เสียหายอะไรแม้แต่น้อย

ดุจสองวิญญาณเก่าเคล้ากัน จนเกิดวิญญาณใหม่ที่

สวยงามขึ้นอีกวิญญาณหนึ่ง…ข้าพเจ้าฟังเพลินจนสะดุ้ง

เมื่อมีหนักๆ มาเขย่าจนรู้สึกตัวตื่นจากภวังค์ บ่ายๆ สามโมงวันนั้น เมื่อนาฏศิลป์

และละครกลับกัน บนห้องเล็กเหลือข้าพเจ้า , เนรมิต, มารุต, สุรสิทธิ์ 

เนรมิตและมารุตบ่นถึงเพลง ” น้ำตาแสงไต้ ”

ว่าทำนองที่คุณโพธิ์และคุณประกิจส่งมายังใช้ไม่ได้ เหลือเวลาอีก ๓ วัน

ละครจะแสดงแล้วเดี๋ยวไม่ทัน ข้าพเจ้านั่งฟังสักครู่หันมาเล่นเปียโน

ท่านที่รัก ความรู้สึกบอกไม่ถูกนิ้วมือข้าพเจ้าบรรเลงไปตามอารมณ์

ข้าพเจ้าก็ไม่รู้ส่าเป็นเพลงอะไร เคลิ้มๆ บังไงพิกล

เนรมิตถามว่า ” หง่า นั่นเพลงอะไร ”

ข้าพเจ้าสะดุ้งพร้อมกับนึกขึ้นได้ และจำทำนองได้ทันทีว่าเป็นเพลงที่ครูอมรดีด

ข้าพเจ้าหันไปถามเนรมิตว่า ” เพราะหรือฮะ ”

เนรมิตพยักหน้าบอกให้เล่นใหม่ ข้าพเจ้าบนนเลงอีกหนึ่งเที่ยว

ทั้งเนรมิตและมารุตพูดขึ้นว่า ” นี่แหละ น้ำตาแสงไต้ “ 

ข้าพเจ้าดีใจรีบจดโน๊ต และประพันธ์คำร้องกันเดี๋ยวน้น

            มารุตขึ้น “  นวลเจ้าพี่เอย ”

            เนรมิตต่อ “  คำน้องเอ่ยล้ำคร่ำครวญ “

            แล้วช่วยกันต่อ ” ถ้อยคำเหมือนจะชวน ใจพี่หวนครวญคร่ำอาลัย ”

พอจบประโยคแรก สุรสิทธิ์ร้องเกลาทันที

ร่วมกันสร้างจบคำร้องในราว ๑๐ นาทีเท่านั้นเอง

สุดท้ายเพลงก็ทันละครแสดง  เมื่อทำนองเพลง

” น้ำตาแสงไต้ ” พลิ้วขึ้นคนร้องไห้กันทั้งโรง แม้ พันท้ายนรสิงห์

จะสร้างเป็นภาพยนตร์ยังใช้เพลง ” น้ำตาแสงไต้ ” เป็นเพลงเอกอยู่

 

เพลงผีบอก ที่มาของเพลง ” น้ำตาแสงไต้” 

สาขาศิลปะการแสดงปี ๒๕๓๑  สง่า อารัม คัดลอกมาจากหนังสือ เพลงผีบอก รวมเรื่องผีและที่

ของเพลงน้ำตาแสงไต้ โดย ศิลปินแห่งชาติ

และขอขอบคุณ พี่เต้ย คุณบูรพา  อารัมภีร บุตรชายของครูแจ๋ว สง่า อารัมภีร

ที่อนุญาติให้นำที่มาของเพลง ” น้ำตาแสงไต้ ”

มาเผยแพร่ในบล็อก PRISANASWEETSONG

ขอขอบพระคุณเป็นอย่างยิ่งค่ะ

                                        น้ำตาแสงไต้                      

คำร้อง :   มารุต - เนรมิต     ทำนอง :   สง่า   อารัมภีร

           นวลเจ้าพี่เอย … คำน้องเอ่ยล้ำคร่ำครวญ

ถ้อยคำเหมือนจะชวน    ใจพี่หวนสรวญตร่ำอาลัย

           น้ำตา…อาบแก้ม    เพียงแซบเพชรไสว

แวววับจับหัวใจ              เคล้าแสงไต้

          นวลแสงเพชร …    เกล็ดแก้วอันล้ำค่า

คราเมื่อแสงไฟส่องมา     แวววาวชื่นชม

          น้ำตา…แสงไต้     ดื่มใจพี่ร้าวระบม

ไม่อยากพรากขวัญภิรมย์    จำใจข่มใจไปจากนวล   .

เพลง น้ำตาแสงไต้  เพลงจากละครเรื่อง  พันท้ายนรสิงห์  

บันทึกเสียงครั้งแรกเมื่อปี  พ.ศ. ๒๔๙๒

โดย  บุญช่วย  หิรัญสุนทร    .

ต่อมา ครูแจ๋ว สง่า  อารัมภีร ได้ให้คุณชรินทร์  นันทนาคร 

ร้องบันทึกเสียงอีกครั้ง


หลังจากนั้นไม่นานครูแจ๋ว สง่า  อารัมภีร 

ท่านได้แต่งเพลงมาร้องแก้กันกับเพลง "น้ำตาแสงใต้ "

คือเพลง " น้ำตานวล " และได้ให้คุณดาวใจ  ไพจิตร  บันทึกเสียงค่ะ



ที่มา. http://www.oknation.net/blog/prisanasweetsong/2009/12/26/entry-1

ของคุณแหม่มแก้มแดง